ในยุคที่ประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างเต็มตัว การออกแบบและรับสร้างบ้านที่เอื้อต่อการใช้ชีวิตของผู้สูงวัยและผู้ใช้วีลแชร์กำลังได้รับความสนใจมากขึ้นเรื่อย ๆ ไม่เพียงแต่จะช่วยเพิ่มคุณภาพชีวิตให้กับผู้อยู่อาศัย แต่ยังเป็นการเตรียมพร้อมสำหรับอนาคตที่ประชากรส่วนใหญ่จะเข้าสู่วัยเกษียณ การสร้างบ้านที่เป็นมิตรกับผู้ใช้วีลแชร์จึงไม่ใช่เพียงทางเลือก แต่เป็นความจำเป็นที่จะช่วยส่งเสริมความเป็นอิสระและความปลอดภัยให้กับผู้อยู่อาศัยในระยะยาว
บทความนี้จะแนะนำ 7 เรื่องสำคัญที่คุณควรพิจารณาเมื่อต้องการสร้างหรือปรับปรุงบ้านให้เป็นมิตรกับผู้ใช้วีลแชร์และผู้สูงอายุ เพื่อให้ทุกคนในครอบครัวสามารถใช้ชีวิตร่วมกันได้อย่างมีความสุขและปลอดภัย
- การออกแบบทางเข้าที่เหมาะสม
ทางเข้าบ้านเป็นจุดแรกที่ต้องให้ความสำคัญเป็นพิเศษ บริษัทรับออกแบบบ้านที่มีประสบการณ์ จะแนะนำให้สร้างทางลาดที่มีความลาดเอียงไม่เกิน 1:12 (สูง 1 ส่วนต่อระยะทาง 12 ส่วน) เพื่อให้ผู้ใช้วีลแชร์สามารถเข้าออกได้โดยสะดวก นอกจากนี้ ควรมีราวจับที่แข็งแรงติดตั้งไว้ตลอดแนวทางลาดเพื่อเพิ่มความปลอดภัย
พื้นผิวของทางลาดควรเป็นวัสดุที่ไม่ลื่น เช่น คอนกรีตขัดหยาบ หรือกระเบื้องยางกันลื่น เพื่อป้องกันอุบัติเหตุในวันที่ฝนตกหรือมีความชื้นสูง นอกจากนี้ ควรมีชานพักที่กว้างพอสำหรับการหมุนวีลแชร์ได้อย่างสะดวก โดยเฉพาะบริเวณหน้าประตูทางเข้า
- ประตูและทางเดินภายในบ้าน
บ้านสำหรับผู้ใช้วีลแชร์ ประตูและทางเดินภายในบ้านต้องได้รับการออกแบบอย่างรอบคอบ ประตูควรมีความกว้างอย่างน้อย 90 เซนติเมตร เพื่อให้วีลแชร์สามารถผ่านได้อย่างสะดวก ควรเลือกใช้ประตูแบบบานเลื่อนหรือประตูที่เปิดออกด้านนอกเพื่อประหยัดพื้นที่และง่ายต่อการเปิดปิด
ทางเดินภายในบ้านควรมีความกว้างอย่างน้อย 120 เซนติเมตร เพื่อให้ผู้ใช้วีลแชร์สามารถเคลื่อนที่และหมุนตัวได้อย่างสะดวก หลีกเลี่ยงการวางเฟอร์นิเจอร์หรือสิ่งของที่กีดขวางทางเดิน และควรติดตั้งสวิตช์ไฟในตำแหน่งที่เอื้อมถึงได้ง่ายจากระดับวีลแชร์
- ห้องน้ำที่ปลอดภัยและใช้งานง่าย
ห้องน้ำเป็นพื้นที่สำคัญที่ต้องได้รับการออกแบบเป็นพิเศษ บริษัทรับสร้างบ้านที่มีความเชี่ยวชาญ จะแนะนำให้ติดตั้งโถสุขภัณฑ์แบบชักโครกที่มีความสูงเหมาะสม (ประมาณ 45-50 เซนติเมตร) พร้อมราวจับที่แข็งแรงทั้งสองด้าน อ่างล้างหน้าควรเป็นแบบแขวนผนังที่ไม่มีตู้ด้านล่าง เพื่อให้วีลแชร์สามารถเข้าไปใช้งานได้สะดวก
พื้นห้องน้ำควรใช้วัสดุกันลื่นและไม่ควรมีธรณีประตู เพื่อป้องกันการสะดุดและอำนวยความสะดวกในการเข้าออก ส่วนพื้นที่อาบน้ำควรเป็นแบบฝักบัวที่ไม่มีขอบกั้น (Roll-in shower) พร้อมติดตั้งเก้าอี้อาบน้ำแบบพับเก็บได้และราวจับที่แข็งแรง
- ห้องครัวที่ใช้งานได้สะดวก
การออกแบบห้องครัวสำหรับผู้ใช้วีลแชร์ต้องคำนึงถึงความสะดวกในการเข้าถึงและใช้งานอุปกรณ์ต่าง ๆ เคาน์เตอร์ครัวควรมีความสูงที่เหมาะสม (ประมาณ 75-85 เซนติเมตร) และมีพื้นที่ว่างใต้เคาน์เตอร์เพื่อให้วีลแชร์สามารถเข้าไปใช้งานได้ ตู้เก็บของควรออกแบบให้สามารถเข้าถึงได้ง่ายจากระดับวีลแชร์ โดยอาจใช้ชั้นวางของแบบเลื่อนหรือหมุนได้ นอกจากนี้ ควรมีพื้นที่ว่างเพียงพอสำหรับการหมุนวีลแชร์ในห้องครัว (เส้นผ่านศูนย์กลางอย่างน้อย 150 เซนติเมตร) เพื่อให้ผู้ใช้สามารถทำกิจกรรมในครัวได้อย่างอิสระ
- ห้องนอนที่เอื้อต่อการพักผ่อน
ห้องนอนควรมีพื้นที่เพียงพอสำหรับการเคลื่อนที่ของวีลแชร์รอบเตียง โดยควรเว้นระยะห่างจากผนังอย่างน้อย 90 เซนติเมตรทั้งสองด้างของเตียง เตียงนอนควรมีความสูงที่เหมาะสม (ประมาณ 45-50 เซนติเมตร) เพื่อให้สามารถเคลื่อนย้ายตัวจากวีลแชร์สู่เตียงได้สะดวก
ตู้เสื้อผ้าควรออกแบบให้มีราวแขวนเสื้อผ้าที่สามารถปรับระดับความสูงได้ และมีชั้นวางของที่เข้าถึงได้ง่ายจากระดับวีลแชร์ การติดตั้งสวิตช์ไฟและรีโมทคอนโทรลสำหรับเครื่องปรับอากาศในตำแหน่งที่เอื้อมถึงได้จากเตียงจะช่วยเพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้ใช้วีลแชร์
- พื้นที่ภายนอกบ้านที่เป็นมิตร
การออกแบบพื้นที่ภายนอกบ้านก็มีความสำคัญไม่แพ้ภายในบ้าน ทางเดินในสวนควรมีความกว้างอย่างน้อย 120 เซนติเมตร และใช้วัสดุที่เรียบแต่ไม่ลื่น เช่น คอนกรีตขัดหยาบหรือแผ่นทางเดินสำเร็จรูปที่ติดตั้งอย่างเรียบร้อย หลีกเลี่ยงการใช้กรวดหรือหินก้อนใหญ่ซึ่งอาจทำให้วีลแชร์เคลื่อนที่ลำบาก ระเบียงหรือชานบ้านควรมีพื้นที่กว้างพอสำหรับการหมุนวีลแชร์ และมีราวกันตกที่แข็งแรงเพื่อความปลอดภัย การจัดให้มีพื้นที่นั่งเล่นกลางแจ้งที่เข้าถึงได้ง่ายจะช่วยส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้ใช้วีลแชร์ได้เป็นอย่างดี
- ระบบอัจฉริยะและอุปกรณ์อำนวยความสะดวก
การนำเทคโนโลยีสมาร์ทโฮมมาใช้ในบ้านสามารถเพิ่มความสะดวกสบายและความปลอดภัยให้กับผู้ใช้วีลแชร์ได้อย่างมาก ระบบควบคุมแสงสว่าง เครื่องปรับอากาศ และประตูอัตโนมัติผ่านสมาร์ทโฟนหรือการสั่งงานด้วยเสียงช่วยให้ผู้ใช้วีลแชร์สามารถควบคุมสภาพแวดล้อมในบ้านได้อย่างสะดวก และที่ขาดไม่ได้เลยคือ การติดตั้งกล้องวงจรปิดและระบบแจ้งเตือนฉุกเฉินที่เชื่อมต่อกับศูนย์ช่วยเหลือหรือญาติสนิทช่วยเพิ่มความอุ่นใจให้กับผู้อยู่อาศัย
การสร้างบ้านที่เป็นมิตรกับผู้ใช้วีลแชร์และผู้สูงอายุเป็นสิ่งสำคัญในสังคมผู้สูงอายุของไทย ไม่เพียงช่วยเพิ่มคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุในบ้าน แต่ยังทำให้ทุกคนในครอบครัวสามารถใช้ชีวิตร่วมกันได้อย่างมีความสุขและความอบอุ่น สมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน เชื่อว่า บ้านเป็นที่ ๆ เริ่มต้นและลงท้ายของสิ่งดี ๆ ทั้งหมด
สนับสนุนบทความโดย
บริษัท มีนบุรีรับสร้างบ้านคุณภาพ จำกัด
ที่อยู่ : 75/11 ซอยร่มเกล้า1 แขวงแสนแสบ เขตมีนบุรี กรุงเทพฯ 10510
โทรศัพท์ : 02 919 4653
อีเมล : This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.