แม้ว่าเทคโนโลยีจะก้าวหน้าสักเพียงใด แต่คนส่วนมากก็ยังโหยหาธรรมชาติ สะท้อนผ่านความนิยมในสินค้าหรือวัสดุที่มาจากธรรมชาติ หรือเลียนแบบธรรมชาตินั่นเอง ด้วยเสน่ห์ของลวดลายไม้จริงจากธรรมชาติที่เป็นเอกลักษณ์ และผิวสัมผัสที่ให้ความรู้สึกอบอุ่น อ่อนโยน ทำให้พื้นไม้จริงเป็นตัวเลือกยอดนิยมจากอดีตจนถึงปัจจุบัน แต่การจะตัดสินใจเลือกใช้พื้นไม้จริงนั้น ต้องคิดคำนึงให้รอบด้าน เพราะตัวพื้นไม้จริงก็มีข้อจำกัดบางประการเช่นกัน วันนี้มาทำความรู้จักคุณสมบัติ และข้อดี-ข้อเสียของพื้นไม้จริง เพื่อประกอบการตัดสินใจเลือกใช้ให้เหมาะกับบ้าน
ทำความรู้จักคุณสมบัติ และข้อดี-ข้อเสียของพื้นไม้จริง
ประเทศในแถบเอเชียอาคเนย์ นิยมใช้ไม้มาตั้งแต่อดีต เพราะเป็นวัสดุที่หาง่าย เหมาะกับภูมิอากาศ จวบจนปัจจุบันแม้ว่าไม้จะหาได้ยากกว่าเดิมและมีราคาสูงมาก ไม้ก็ยังคงได้รับความนิยม เพราะความสวยคลาสสิก ให้อารมณ์ที่อบอุ่น ผ่อนคลาย
คุณสมบัติเด่นของพื้นไม้จริง
- ไม้ธรรมชาติเต็มแผ่น ได้ผิวสัมผัสของลายไม้จริง
- สีไม้สวยโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ด้วยสีไม้จริงตามธรรมชาติ ที่หาไม่ได้จากพื้นไม้สังเคราะห์
- แข็งแรง อายุการใช้งานยาวนาน ประมาณ 20-30 ปี
- รับน้ำหนักได้ดี แต่ไม่รองรับแรงกระแทก
- สามารถติดตั้งได้ทั้งระบบกาว และระบบยึดตะปู
ข้อจำกัดของพื้นไม้จริง
- พื้นไม้จริงมีราคาสูง เพราะเป็นวัสดุหายาก
- มีการยืดหดตามสภาพอากาศ
- มีปัญหาเรื่องปลวกและแมลงกัดกิน
- ไม่ทนความชื้น ซึ่งเป็นปัญหาหลักของเมืองไทย
- บำรุงรักษายากกว่าวัสดุอื่น ๆ
พื้นไม้จริงที่นิยมนำมาปูพื้นบ้าน
สำหรับในประเทศไทย ไม้ที่นำมาแปรรูปใช้ทำพื้นบ้าน นิยมใช้เป็นไม้เนื้อแข็ง ที่ผิวสัมผัสของเนื้อไม้จะมีความมัน ลวดลายละเอียด เนื้อแน่น สีเข้ม (แดงถึงดำ) มีน้ำหนักมาก แข็งแรงทนทาน เหมาะสำหรับงานปูพื้น เช่น ไม้สัก ไม้เต็ง ไม้มะค่า ไม้แดง ซึ่งแต่ละชนิดก็มีจุดเด่น จุดด้อยแตกต่างกัน ดังนี้
1. พื้นไม้สัก
ไม้สัก มีลักษณะเนื้อไม้ละเอียด สีน้ำตาลทอง ลวดลายสวยงาม คุณภาพดีที่สุดเมื่อเทียบกับไม้หลายๆ ประเภท ง่ายต่อการแปรรูป ไม้มีความแข็งแรง ที่สำคัญไม้สักมักไม่โดนปลวกกิน และแมลงต่างๆ ไม่ชอบ ไม้สักที่นิยมนำมาใช้ในงานปูกันอย่างแพร่หลาย คือ สักทอง สักขี้ควาย หรือสักป่าปลูก โดยพื้นไม้สักจะมีอายุการใช้งานเฉลี่ย 10 ปี ขึ้นไป
ข้อดีของไม้สัก
- แข็งแรงทนทาน แต่เนื้อไม้ก็ยังมีความนิ่มสามารถแปรรูปได้ง่าย
- สวย มีคุณภาพดี ให้ผิวสัมผัสละเอียดสวยงาม
- ปลวกไม่ชอบกิน และปราศจากแมลงรบกวนต่างๆ
- ไม้สัก ยิ่งเก่ายิ่งมีคุณค่าเพิ่มมากขึ้น
ข้อเสียของไม้สัก
- พื้นผิวไม้สักเป็นรอยขีดข่วนได้ง่าย
- ไม้สักจะบิดตัวและงอตัวตามสภาพอากาศ โดยเฉพาะอากาศที่ร้อนแห้งมากๆ
- ช่างฝีมือที่มีความชำนาญในงานไม้ โดยเฉพาะงานไม้สักมีจำนวนน้อย
2. พื้นไม้เต็ง
ไม้เต็ง เนื้อไม้เป็นสีน้ำตาลอ่อนๆ หรือน้ำตาลออกเทา จัดเป็นไม้เนื้อแข็งที่มีความแข็งแรงทนทานมาก จึงมีคุณสมบัติเหมาะสำหรับทำพื้นไม้ โดยการทำพื้นไม้ประเภทนี้ต้องนำไม้เต็งไปอบแห้งให้มีความชื้นไม่เกิน 12% และทาสีรักษาเนื้อไม้ เพื่อให้พื้นไม้เต็งสามารถทนทานต่อการขูดขีด และลดการสูญเสียความชื้นจากในเนื้อไม้ ช่วยให้พื้นไม้มีความเงางาม และช่วยป้องกันการรบกวนของปลวกที่จะเจาะพื้นไม้เต็งได้ด้วย
ข้อดีของไม้เต็ง
- ไม้มีความคงทนแข็งแรง รับน้ำหนักได้ดี
- ทนต่อสภาพอากาศได้ดีกว่าไม้ชนิดอื่น ๆ จึงสามารถนำไปทำเป็นพื้นภายนอกบ้านได้
- มีอัตราการบิดตัว หรือโก่งตัวเมื่อโดนน้ำ และความชื้นค่อนข้างต่ำ
ข้อเสียของไม้เต็ง
- พื้นผิวของไม้เต็งค่อนข้างหยาบ และลวดลายไม่สวยงามเท่ากับไม้ชนิดอื่น ๆ
- เนื้อแข็ง จึงทำให้ตัดแต่งและลงรายละเอียดได้ค่อนข้างยาก
- ทำสียาก มีโอกาสที่สีแตกลอกล่อนค่อนข้างเร็วหากทำสีไม่ดีพอ
3. ไม้แดง
เนื้อไม้มีสีน้ำตาลอมแดง โดดเด่นด้วยลายเส้นสีเข้มสวยงาม และมีจุดดำแทรกในเนื้อไม้ เป็นไม้ที่มีเนื้อไม้ค่อนข้างแน่น ทนทาน และสามารถรับน้ำหนักได้ดี เจาะตัดได้ยากกว่าไม้ชนิดอื่น ๆ และมีราคาไม่สูงมากนัก
ข้อดีของไม้แดง
- ไม้เนื้อแข็ง เนื้อไม้ค่อนข้างแน่น มีความทนทาน และสามารถรับน้ำหนักได้ดี
- มีความโดดเด่นด้วยลายเส้นสีเข้มสวยงาม ในโทนสีน้ำตาลอมแดง
- ไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องปลวก หรือแมลงรบกวน
ข้อเสียของไม้แดง
- ไม้แดงมีโอกาสยืดหดตัวตามสภาพอากาศ และมีอัตราการยืดหดตัวสูง
- การตัดแต่ง หรือการเจาะทำได้ค่อนข้างยาก ยกตัวอย่างเช่น เวลาตอกตะปูจะต้องเอาสว่านเจาะนำก่อน จึงจะตอกตะปูได้
ต้องยอมรับว่า การเลือกพื้นไม้จริงนั้นจะทำให้บ้านสวยคลาสสิกมีมูลค่า และให้ความรู้สึกแตกต่างจากวัสดุชนิดอื่น แต่ก็ต้องเตรียมรับมือกับข้อจำกัดต่าง ๆ และการบำรุงรักษาในระยะยาว ที่สำคัญคือการหาช่างไม้ในยุคปัจจุบันที่มีความชำนาญนั้น คือข้อจำกัดด่านแรกที่สำคัญที่สุด ดังนั้นหากตัดสินใจจะลุยใช้พื้นไม้จริงในการสร้างบ้าน ต้องเตรียมหา บริษัทรับสร้างบ้านที่สร้างบ้านคุณภาพ และมีความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับงานไม้ เพื่อให้คำปรึกษาในการเลือกใช้ไม้ที่เหมาะสม และติดตั้งพื้นไม้ได้ถูกต้องตามมาตรฐาน เพื่อให้บ้านของเราอยู่ยาวได้อย่างปราศจากปัญหาจุกจิกตามรังควานใจ
สนับสนุนบทความโดย
บริษัท ท็อป เอส ที บิวเดอร์ จำกัด
274/5-7 ซ.ลาดพร้าว 122 ถ.ลาดพร้าว แขวงพลับพลา เขตวังทองหลาง กรุงเทพฯ 10310
โทรศัพท์: 09 5246 6063
อีเมล: This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.
เว็บไซต์: www.topstbuilder.com