ทำเลสร้างบ้านเป็นสิ่งสำคัญอันดับแรกที่เจ้าของบ้านควรคำนึงถึงและเลือกอย่างรอบคอบ ด้วยเพราะสิ่งปลูกสร้างสามารถซ่อมแซม ปรับปรุงแก้ไขได้ แต่ทำเลที่ตั้งไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ นอกจากจะตัดสินใจย้ายทำเลหนีปัญหา ดังนั้น สมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน (Home Builder Association) จึงได้รวบรวมแนวคิดการเลือกทำเลสร้างบ้านอย่างไรให้ตอบโจทย์การใช้ชีวิต เพื่อเป็นแนวทางให้ว่าที่เจ้าของบ้านหลังใหม่ได้ใช้พิจารณา
เทคนิคเลือกทำเลสร้างบ้านอย่างไรให้ตอบโจทย์การใช้ชีวิต?
การเลือกทำเลสร้างบ้านเป็นการตัดสินใจครั้งสำคัญ เพราะจะส่งผลต่อคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ของเราในระยะยาว ดังนั้นจึงควรพิจารณาปัจจัยต่างๆ ดังต่อไปนี้อย่างรอบคอบ เพื่อให้ได้ทำเลที่เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์และความต้องการของเรามากที่สุด
ปัจจัยที่ต้องพิจารณาในการเลือกทำเลสร้างบ้าน
1. การคมนาคม
การคมนาคมที่ดีจะช่วยให้เดินทางสะดวก ไม่ว่าจะไปทำงาน ไปโรงเรียน หรือไปพบปะผู้คน สามารถเลือกทำเลที่อยู่ใกล้กับรถไฟฟ้า ถนนหลัก หรือทางด่วน ตัวอย่างเช่น
- การเลือกทำเลที่อยู่ใกล้กับรถไฟฟ้า จะช่วยให้เดินทางสะดวกขึ้นโดยเฉพาะในชั่วโมงเร่งด่วน
- การเลือกทำเลที่อยู่ใกล้กับถนนหลัก จะช่วยให้เดินทางสะดวกด้วยรถยนต์ส่วนตัว
- การเลือกทำเลที่อยู่ใกล้กับทางด่วน จะช่วยให้เดินทางในระยะไกลได้สะดวกขึ้น
2. ขนาดประชากรในพื้นที่
การเลือกทำเลที่มีประชากรหนาแน่น จะทำให้มีสิ่งอำนวยความสะดวกและสาธารณูปโภคต่างๆ ครบครัน เดินทางสะดวก และมีโอกาสพบปะผู้คนได้ง่าย ตัวอย่างเช่น
- การเลือกทำเลในเมืองหรือใกล้กับแหล่งชุมชน จะทำให้มีโรงเรียน โรงพยาบาล ห้างสรรพสินค้า ร้านอาหาร และร้านสะดวกซื้ออยู่ใกล้ๆ เดินทางสะดวกด้วยรถสาธารณะ และมีโอกาสพบปะผู้คนได้ง่ายขึ้น
3. ความพร้อมของทรัพยากร (สิ่งอำนวยความสะดวก)
สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เช่น โรงเรียน โรงพยาบาล ตลาด ห้างสรรพสินค้า สวนสาธารณะ ล้วนเป็นสิ่งที่จำเป็นต่อการใช้ชีวิต ดังนั้นควรเลือกทำเลที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกเหล่านี้อยู่ใกล้ๆ ตัวอย่างเช่น
- การเลือกทำเลใกล้โรงเรียน จะทำให้สามารถพาลูกไปโรงเรียนได้ง่ายขึ้น
- การเลือกทำเลใกล้โรงพยาบาล จะช่วยให้สามารถเข้าถึงการรักษาพยาบาลได้อย่างรวดเร็ว
- การเลือกทำเลใกล้ห้างสรรพสินค้า จะช่วยให้สามารถหาซื้อของใช้และจับจ่ายใช้สอยได้ง่ายขึ้น
4. ความปลอดภัย
ความปลอดภัยถือเป็นปัจจัยสำคัญที่สุดในการอยู่อาศัย ควรเลือกทำเลที่มีสภาพแวดล้อมดี ปราศจากมลพิษ และอัตราการเกิดอาชญากรรมต่ำ ตัวอย่างเช่น
- การเลือกทำเลที่มีอากาศบริสุทธิ์ ต้นไม้ร่มรื่น และเงียบสงบ จะช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายและมีความสุขในการอยู่อาศัย
- การเลือกทำเลที่อยู่ห่างจากแหล่งมลพิษ เช่น โรงงานอุตสาหกรรม หรือสถานประกอบการที่มีเสียงดัง จะช่วยให้มีสุขภาพที่ดี
- การเลือกทำเลที่มีอัตราการเกิดอาชญากรรมต่ำ จะช่วยให้รู้สึกปลอดภัยในการอยู่อาศัย
5. สภาพแวดล้อม
สภาพแวดล้อมที่ดีจะช่วยให้เรารู้สึกผ่อนคลายและมีความสุขในการอยู่อาศัย ควรเลือกทำเลที่มีอากาศบริสุทธิ์ ต้นไม้ร่มรื่น และเงียบสงบ ตัวอย่างเช่น
- การเลือกทำเลที่อยู่ใกล้กับสวนสาธารณะ จะช่วยให้สามารถพักผ่อนหย่อนใจท่ามกลางธรรมชาติได้
- การเลือกทำเลที่อยู่ใกล้กับแม่น้ำหรือทะเล จะช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายและสดชื่น
- การเลือกทำเลที่อยู่ห่างจากแหล่งเสียงรบกวน เช่น โรงงานอุตสาหกรรม หรือสถานบันเทิง จะช่วยให้รู้สึกสงบสุขในการอยู่อาศัย
6. ตรวจสอบข้อกฎหมาย
ก่อนตัดสินใจสร้างบ้าน ควรตรวจสอบข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เช่น กฎหมายผังเมือง กฎหมายอาคาร กฎหมายที่ดิน เพราะกฎหมายแต่ละส่วนมีความสำคัญและข้อกำหนดที่แตกต่างกัน เช่น
- กฎหมายผังเมือง จะช่วยให้ทราบว่าพื้นที่นั้นสามารถก่อสร้างบ้านได้หรือไม่
- กฎหมายอาคาร จะช่วยให้ทราบว่าบ้านที่จะสร้างนั้นเป็นไปตามมาตรฐานหรือไม่
- กฎหมายที่ดิน จะช่วยให้ทราบว่าที่ดินนั้นสามารถซื้อขายได้หรือไม่
7. แนวโน้มการเจริญเติบโต
ทำเลที่เหมาะสมควรมีแนวโน้มการเจริญเติบโตในอนาคต เพื่อให้สามารถเพิ่มมูลค่าให้กับทรัพย์สินได้ โดยพิจารณาจากอัตราการขยายตัวของชุมชน การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน และแนวโน้มทางเศรษฐกิจ ตัวอย่างเช่น
- หากคาดหวังว่ามูลค่าทรัพย์สินจะเพิ่มขึ้นในอนาคต ควรเลือกทำเลที่อยู่ในทำเลที่มีศักยภาพในการพัฒนา เช่น ใกล้กับสถานีรถไฟฟ้าหรือโครงการพัฒนาขนาดใหญ่
- หากผู้ต้องการขายบ้านในอนาคต ควรเลือกทำเลที่อยู่ในทำเลที่มีความต้องการที่อยู่อาศัยสูง เช่น ใกล้กับแหล่งงานหรือสถานศึกษา
เคล็ดลับการเลือกทำเลสร้างบ้านให้ตอบโจทย์การใช้ชีวิต
- สำรวจความต้องการและไลฟ์สไตล์ อันดับแรกควรสำรวจความต้องการและไลฟ์สไตล์ของเราก่อนว่าต้องการทำเลแบบไหน อยู่ใกล้กับสถานที่ใดบ้าง ทำงานที่ไหน เดินทางอย่างไร ตัวอย่างเช่น หากทำงานในเมืองและมีลูกเล็ก ควรเลือกทำเลที่ใกล้กับโรงเรียนและสวนสาธารณะ เพื่อให้สามารถดูแลลูกได้อย่างสะดวก
- ศึกษาข้อมูลและทำความเข้าใจพื้นที่ เมื่อทราบความต้องการและไลฟ์สไตล์แล้ว ควรศึกษาข้อมูลและทำความเข้าใจพื้นที่อย่างละเอียด เช่น ขนาดพื้นที่ สภาพเศรษฐกิจ แนวโน้มการเจริญเติบโตในอนาคต ตัวอย่างเช่น หากต้องการทำเลที่เงียบสงบ ควรเลือกทำเลที่อยู่ห่างจากแหล่งชุมชนและโรงงานอุตสาหกรรม
- เปรียบเทียบทำเลต่างๆ หลายๆ แห่ง เพื่อหาทำเลที่เหมาะสมที่สุด เช่น เปรียบเทียบในแง่ของราคา สิ่งอำนวยความสะดวก ความปลอดภัย และสภาพแวดล้อม
- พูดคุยกับผู้เชี่ยวชาญ หากไม่แน่ใจหรือต้องการคำแนะนำเพิ่มเติม ควรพูดคุยกับผู้เชี่ยวชาญ เช่น ตัวแทนอสังหาริมทรัพย์ หรือนักลงทุนอสังหาริมทรัพย์
บริษัทรับสร้างบ้านช่วยเลือกทำเลได้
บริษัทรับสร้างบ้านส่วนใหญ่จะมีทีมงานที่มีความรู้และประสบการณ์ในการเลือกทำเลสร้างบ้าน จะช่วยให้เลือกทำเลที่เหมาะสมกับความต้องการและไลฟ์สไตล์ของของผู้ที่จะอยู่อาศัยในบ้านที่อยากสร้างได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สิ่งเหล่านี้ คือ แนวทางในการเลือกทำเลสร้างบ้าน ซึ่งแต่ละทำเลย่อมมีข้อดีข้อเสียแตกต่างกัน ให้เปรียบเทียบและให้น้ำหนักในแต่ละด้าน เพื่อให้ได้ทำเลที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตของสมาชิกในครอบครัวมากที่สุด และหากได้ทำเลแล้ว ต้องการหาบริษัทรับสร้างบ้านที่ครบวงจรและเป็นมืออาชีพ สมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน (Home Builder Association) มีทำเนียบสมาชิก บริษัทรับสร้างบ้าน ที่มีความน่าเชื่อถือในคุณภาพและมาตรฐานวิชาชีพ พร้อมให้คำปรึกษามากมายหลายบริษัท
สนับสนุนบทความโดย
บริษัท ซีคอน จำกัด
107-115 ถ.สี่พระยา แขวงสี่พระยา เขตบางรัก กรุงเทพฯ 10500
โทรศัพท์: 1391
อีเมล: This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.
เว็บไซต์: www.seacon.co.th