บริษัท รับสร้างบ้าน

บริษัทรับสร้างบ้าน รับสร้างบ้าน สร้างบ้าน สมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน

“การประกันสร้างบ้าน” เรื่องควรรู้ก่อนทำสัญญาสร้างบ้าน

18
ก.พ.
2561

“การประกันบ้าน” ในกระบวนการก่อสร้างบ้านจึงถือเป็นเรื่องสำคัญ ในขั้นตอนการทำสัญญากับบริษัทรับสร้างบ้านไม่ว่าบริษัทเล็กหรือใหญ่ก็ตาม จึงต้องทวงถามหรือตรวจสอบให้ดีว่ามีเงื่อนไขในการประกับบ้านถูกต้องเหมาะสม หรือไม่

การประกันบ้าน คืออะไร ? 

การประกันบ้าน หรือที่เรียกกันอีกอย่างว่าเป็น การค้ำประกันผลงาน เป็นส่วนหนึ่งของสัญญาในการสร้างบ้านที่ผู้ว่าจ้าง จะได้รับข้อตกลงที่ถูกต้องและเป็นธรรมร่วมกับบริษัทที่เข้ามาสร้างบ้านให้ ในการดูแลความเรียบร้อย ปลอดภัย ความสวยงาม แข็งแรง และครบถ้วนทุกประการตามแปลนบ้านที่วางไว้ พูดอย่างง่าย ๆ ก็คือ นอกเหนือจากสัญญาว่าจะสร้างบ้านจนแล้วเสร็จ บริษัทจะต้องทำการรับประกันถึงผลงานที่ตนสร้างไว้อีกด้วย 

การประกันบ้านจะถูกกำหนดเป็นวงเงินที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณในการสร้างบ้าน ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วในการจ่ายค่างวดให้บริษัทรับสร้างบ้าน  จะมีเงินบางส่วนที่ถูกหักออกเสียก่อน มาจากงบประมาณที่ต้องจ่ายให้ผู้รับเหมาในแง่ละงวด เพื่อให้ผู้ว่าจ้างเก็บไว้เพื่อเป็นการประกันว่าบริษัทรับสร้างบ้านจะไม่เบี้ยวงานและยินดีรับผิดชอบเมื่องานเสียหายระหว่างก่อสร้างและหลังก่อสร้าง โดยเงินนี้เรียกว่า “เงินหักค้ำประกันผลงาน” เมื่อการก่อสร้างเสร็จเรียบร้อยดีแล้ว เงินนี้จะถูกจ่ายคืนกลับไปให้บริษัทรับสร้างบ้านจบครบตามจำนวนตามเดิม

อัตราการหักเงินค่าประกันบ้าน

โดยทั่วไปแล้ว จำนวนเงินที่ผู้ว่าจ้างจะหักเก็บไว้เป็นเงินค้ำประกันบ้านจากบริษัทรับสร้างบ้าน จะกำหนดโดยตกลงกันเองได้ แต่ส่วนใหญ่แล้วอาจจะกำหนดตัวเลขที่ 5-10 % ของเงินที่จ่ายในการก่อสร้างแต่ละงวด

ยกตัวอย่างเช่น สัญญาในการสร้างบ้านใช้งบประมาณ 1 ล้านบาท (1,000,000 บาท) แบ่งงวดงานออกเป็น 5 งวด ผู้ว่าจ้างต้องจ่ายให้บริษัทสร้างบ้านที่งวดละ 2 แสนบ้าน (200,000 บาท) โดยวันที่จ่าย อาจมีการหักเก็บไว้ 5% ซึ่งคือ 10,000 บาทต่องวด เมื่อเสร็จงานแล้ว บริษัทสร้างบ้านจะมีเงินค้ำประกันที่ยังอยู่กับผู้ว่าจ้างจำนวน 50,000 บาท ซึ่งหากการตรวจงานเรียบร้อยแล้วไม่มีปัญหา เงินก้อนนี้ก็จะกลับคืนให้บริษัทเหมือนเดิม

ประเภทการค้ำประกันผลงาน

บริษัทรับสร้างบ้านแต่ละแห่ง อาจมีเงื่อนไขค้ำประกันผลงานในสัญญาแตกต่างกันออกไป ซึ่งหมายถึงระยะเวลา อัตราค้ำประกัน และอื่น ๆ โดยพิจารณาจากความเหมาะสมของประเภทงาน และสิ่งแวดล้อมประกอบ ยกตัวอย่างเช่น

• งานประเภทโครงสร้างหลัก

งานโครงสร้างหลักเป็นงานที่มีความสำคัญที่สุดในการสร้างบ้าน เป็นส่วนที่ต้องมีการประกันบ้านมากที่สุด โดยทั่วไปแล้วในงานโครงสร้างขนาดใหญ่ที่ต้องมีการวางเสาเข็ม เวลาในการรับประกันจากบริษัทสร้างบ้านอาจจะนานตั้งแต่ 3 ปีถึง 10 ปี ซึ่งแปลว่าในระยะเวลาดังกล่าว หากบ้านมีการทรุดตัวโดยไม่ได้เกิดจากภัยธรรมชาติ ก็ถือว่าบริษัทต้องเข้ามารับผิดชอบซ่อมแซมให้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย 

• งานประเภทหลังคา 

บริษัทสร้างบ้านส่วนใหญ่ ที่เป็นบริษัทใหญ่มักรับประกันที่ 2-5 ปี แต่หากเป็นบริษัทขนาดเล็กอาจรับประกันน้อยกว่านั้น ตั้งแต่ 1-3 ปี

• งานประเภทสีทาบ้าน

งานประเภทสีทาบ้านมักรับประกันที่ประมาณ 1-3 ปี แต่ต้องเป็นการใช้สีที่ค่อนข้างมีมาตรฐานและตรงกับสเป็คที่บริษัทจำหน่ายสีระบุไว้

• งานประเภทประตู หน้าต่าง มุ้งลวด หรือเหล็กดัด 

งานประเภทนี้ รับประกันทั่วไปที่ 1-2 ปี ซึ่งขึ้นอยู่กับข้อตกลงในการเลือกวัสดุแต่แรกด้วย

แบบไหนที่ไม่เข้าค่ายการค้ำประกันผลงาน 

ในกรณีที่ผู้ว่าจ้างและบริษัทรับสร้างบ้านตรวจเอกสารไม่รอบคอบให้ถูกต้องตามกฎหมาย เช่น แปลนบ้านหรือผังบ้านไม่ถูกกฎหมาย หรือก่อสร้างอาคารเพื่อกิจการที่ขัดต่อกฎหมายสิ่งแวดล้อม หรือการใช้อาคารผิดประเภท ก่อให้เกิดความเสียหายต่าง ๆ จะมีผลให้การค้ำประกันผลงานเป็นโมฆะได้ด้วยเช่นกัน

การประกันบ้าน จึงเป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยให้ผู้ว่าจ้างได้รับความมั่นใจว่าบ้านถูกสร้างโดยมืออาชีพ และมีความปลอดภัยให้อยู่อาศัยอย่างสบายใจและคุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไปตลอดการสร้างบ้าน ดังนั้นก่อนสร้างบ้านอย่าลืมใส่ใจเรื่องการประกันบ้านให้รอบคอบด้วยนะคะ

 

++++++++++++++++++

 

พบกับข้อมูลดี ๆ ในกาสร้างบ้านและนวัตกรรมการสร้างบ้านที่น่าสนใจอีกมากมายได้ใน งาน Home Builder & Materials Focus 2018 : Innovation Living ที่สุดของนวัตกรรมสร้างบ้านและวัสดุ  วันที่ 15 – 18 มีนาคม 2018 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ลงทะเบียนคลิก!

 

Smart home for Aging

 

สมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน

Home Builder Association

เลขที่ 2 ซอยลาดปลาเค้า 10 แขวงลาดพร้าว

เขตลาดพร้าว กรุงเทพฯ 10230

 : info@hba-th.org

 : 0-2570-0153,0-2940-2744

  : 0-2570-0154