“การประกันบ้าน” ในกระบวนการก่อสร้างบ้านจึงถือเป็นเรื่องสำคัญ ในขั้นตอนการทำสัญญากับบริษัทรับสร้างบ้านไม่ว่าบริษัทเล็กหรือใหญ่ก็ตาม จึงต้องทวงถามหรือตรวจสอบให้ดีว่ามีเงื่อนไขในการประกับบ้านถูกต้องเหมาะสม หรือไม่
การประกันบ้าน คืออะไร ?
การประกันบ้าน หรือที่เรียกกันอีกอย่างว่าเป็น การค้ำประกันผลงาน เป็นส่วนหนึ่งของสัญญาในการสร้างบ้านที่ผู้ว่าจ้าง จะได้รับข้อตกลงที่ถูกต้องและเป็นธรรมร่วมกับบริษัทที่เข้ามาสร้างบ้านให้ ในการดูแลความเรียบร้อย ปลอดภัย ความสวยงาม แข็งแรง และครบถ้วนทุกประการตามแปลนบ้านที่วางไว้ พูดอย่างง่าย ๆ ก็คือ นอกเหนือจากสัญญาว่าจะสร้างบ้านจนแล้วเสร็จ บริษัทจะต้องทำการรับประกันถึงผลงานที่ตนสร้างไว้อีกด้วย
การประกันบ้านจะถูกกำหนดเป็นวงเงินที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณในการสร้างบ้าน ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วในการจ่ายค่างวดให้บริษัทรับสร้างบ้าน จะมีเงินบางส่วนที่ถูกหักออกเสียก่อน มาจากงบประมาณที่ต้องจ่ายให้ผู้รับเหมาในแง่ละงวด เพื่อให้ผู้ว่าจ้างเก็บไว้เพื่อเป็นการประกันว่าบริษัทรับสร้างบ้านจะไม่เบี้ยวงานและยินดีรับผิดชอบเมื่องานเสียหายระหว่างก่อสร้างและหลังก่อสร้าง โดยเงินนี้เรียกว่า “เงินหักค้ำประกันผลงาน” เมื่อการก่อสร้างเสร็จเรียบร้อยดีแล้ว เงินนี้จะถูกจ่ายคืนกลับไปให้บริษัทรับสร้างบ้านจบครบตามจำนวนตามเดิม
อัตราการหักเงินค่าประกันบ้าน
โดยทั่วไปแล้ว จำนวนเงินที่ผู้ว่าจ้างจะหักเก็บไว้เป็นเงินค้ำประกันบ้านจากบริษัทรับสร้างบ้าน จะกำหนดโดยตกลงกันเองได้ แต่ส่วนใหญ่แล้วอาจจะกำหนดตัวเลขที่ 5-10 % ของเงินที่จ่ายในการก่อสร้างแต่ละงวด
ยกตัวอย่างเช่น สัญญาในการสร้างบ้านใช้งบประมาณ 1 ล้านบาท (1,000,000 บาท) แบ่งงวดงานออกเป็น 5 งวด ผู้ว่าจ้างต้องจ่ายให้บริษัทสร้างบ้านที่งวดละ 2 แสนบ้าน (200,000 บาท) โดยวันที่จ่าย อาจมีการหักเก็บไว้ 5% ซึ่งคือ 10,000 บาทต่องวด เมื่อเสร็จงานแล้ว บริษัทสร้างบ้านจะมีเงินค้ำประกันที่ยังอยู่กับผู้ว่าจ้างจำนวน 50,000 บาท ซึ่งหากการตรวจงานเรียบร้อยแล้วไม่มีปัญหา เงินก้อนนี้ก็จะกลับคืนให้บริษัทเหมือนเดิม
ประเภทการค้ำประกันผลงาน
บริษัทรับสร้างบ้านแต่ละแห่ง อาจมีเงื่อนไขค้ำประกันผลงานในสัญญาแตกต่างกันออกไป ซึ่งหมายถึงระยะเวลา อัตราค้ำประกัน และอื่น ๆ โดยพิจารณาจากความเหมาะสมของประเภทงาน และสิ่งแวดล้อมประกอบ ยกตัวอย่างเช่น
• งานประเภทโครงสร้างหลัก
งานโครงสร้างหลักเป็นงานที่มีความสำคัญที่สุดในการสร้างบ้าน เป็นส่วนที่ต้องมีการประกันบ้านมากที่สุด โดยทั่วไปแล้วในงานโครงสร้างขนาดใหญ่ที่ต้องมีการวางเสาเข็ม เวลาในการรับประกันจากบริษัทสร้างบ้านอาจจะนานตั้งแต่ 3 ปีถึง 10 ปี ซึ่งแปลว่าในระยะเวลาดังกล่าว หากบ้านมีการทรุดตัวโดยไม่ได้เกิดจากภัยธรรมชาติ ก็ถือว่าบริษัทต้องเข้ามารับผิดชอบซ่อมแซมให้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย
• งานประเภทหลังคา
บริษัทสร้างบ้านส่วนใหญ่ ที่เป็นบริษัทใหญ่มักรับประกันที่ 2-5 ปี แต่หากเป็นบริษัทขนาดเล็กอาจรับประกันน้อยกว่านั้น ตั้งแต่ 1-3 ปี
• งานประเภทสีทาบ้าน
งานประเภทสีทาบ้านมักรับประกันที่ประมาณ 1-3 ปี แต่ต้องเป็นการใช้สีที่ค่อนข้างมีมาตรฐานและตรงกับสเป็คที่บริษัทจำหน่ายสีระบุไว้
• งานประเภทประตู หน้าต่าง มุ้งลวด หรือเหล็กดัด
งานประเภทนี้ รับประกันทั่วไปที่ 1-2 ปี ซึ่งขึ้นอยู่กับข้อตกลงในการเลือกวัสดุแต่แรกด้วย
แบบไหนที่ไม่เข้าค่ายการค้ำประกันผลงาน
ในกรณีที่ผู้ว่าจ้างและบริษัทรับสร้างบ้านตรวจเอกสารไม่รอบคอบให้ถูกต้องตามกฎหมาย เช่น แปลนบ้านหรือผังบ้านไม่ถูกกฎหมาย หรือก่อสร้างอาคารเพื่อกิจการที่ขัดต่อกฎหมายสิ่งแวดล้อม หรือการใช้อาคารผิดประเภท ก่อให้เกิดความเสียหายต่าง ๆ จะมีผลให้การค้ำประกันผลงานเป็นโมฆะได้ด้วยเช่นกัน
การประกันบ้าน จึงเป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยให้ผู้ว่าจ้างได้รับความมั่นใจว่าบ้านถูกสร้างโดยมืออาชีพ และมีความปลอดภัยให้อยู่อาศัยอย่างสบายใจและคุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไปตลอดการสร้างบ้าน ดังนั้นก่อนสร้างบ้านอย่าลืมใส่ใจเรื่องการประกันบ้านให้รอบคอบด้วยนะคะ
++++++++++++++++++
พบกับข้อมูลดี ๆ ในกาสร้างบ้านและนวัตกรรมการสร้างบ้านที่น่าสนใจอีกมากมายได้ใน งาน Home Builder & Materials Focus 2018 : Innovation Living ที่สุดของนวัตกรรมสร้างบ้านและวัสดุ วันที่ 15 – 18 มีนาคม 2018 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ลงทะเบียนคลิก!