"สมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน" ความร่วมมือคณะวิศวกรรมศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จัดทำ “มาตรฐานการก่อสร้างบ้านพักอาศัย” ยกระดับคุณภาพบริการรับสร้างบ้าน ตอกย้ำความเชื่อมั่นผู้บริโภค เตรียมประกาศใช้ภายในสิ้นปีนี้
นายวรวุฒิ กาญจนกูล นายกสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน (Home Builder Association : HBA) กล่าวว่า ตลาดรับสร้างบ้านปีนี้มูลค่ามีแนวโน้มเติบโตแตะ 13,000 ล้านบาท จากกลุ่มลูกค้าบ้าน 10 ล้านบาทขึ้นไป ทั้งในกทม. และปริมณฑล ซึ่งแนวโน้มธุรกิจรับสร้างบ้านที่ขยายตัว ประกอบกับที่ผ่านมาลูกค้ามักพบปัญหาผู้รับเหมาทิ้งงาน และหรือสร้างบ้านไม่ได้มาตรฐาน ทำให้สมาคมฯ ได้เร่งพัฒนาคุณภาพให้กับบริษัทรับสร้างบ้านที่เป็นสมาชิก
โดยในปี 2563 สมาคมฯได้ร่วมมือทางวิชาการกับภาควิชาวิศวกรรมโยธา คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย รวมถึงภาคเอกชนอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง จัดตั้งคณะทำงานเพื่อร่วมกันศึกษาและดำเนินการจัดทำ “มาตรฐานการก่อสร้างบ้านพักอาศัย” ขึ้น ภายใต้วัตถุประสงค์เพื่อสร้างมาตรฐาน ยกระดับการทำงานให้แก่สมาชิกสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน และสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าเพิ่มอัตราการเติบโตให้ธุรกิจ
ในระยะเวลา 3 ปีของการพัฒนา “มาตรฐานการก่อสร้างบ้านพักอาศัย สมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน” นั้น ได้มีการ ศึกษาปัญหาของงานก่อสร้างบ้านจากกรณีศึกษาของสมาชิกสมาคม เพื่อรวบรวมรูปแบบมาตรฐานการควบคุมงานก่อสร้าง และมาตรฐานการทำงานที่มีอยู่ในปัจจุบัน และเข้าสู่ส่วนของการจัดทำร่างมาตรฐานตามกรอบแนวคิดตามหลักการประกันคุณภาพ รวมทั้งปรับปรุงมาตรฐานให้สอดคล้องกับการปฏิบัติงานของสมาชิก โดยการประชุมระดมความคิดเห็นร่วมกันระหว่างคณะทำงานและผู้เชี่ยวชาญต่าง ๆ สำหรับมาตรฐานฯ ฉบับนี้จะมีการระบุข้อมูลของผู้ดำเนินการและหน้าที่ความรับผิดชอบ การเตรียมวัสดุอุปกรณ์และเครื่องจักร ขั้นตอนการทำงาน การตรวจสอบคุณภาพ การปรับปรุงแก้ไข และข้อควรระวัง เป็นต้น โดยการออกแบบเฉพาะเพื่องานการก่อสร้างบ้านสำหรับสมาชิกของสมาคมฯ และเตรียมประกาศใช้ภายในสิ้นปีนี้
รศ.ดร.ธนิต ธงทอง คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวในฐานะที่ปรึกษาการพัฒนา ว่า การพัฒนาอุตสาหกรรมก่อสร้างบ้านจำเป็นต้องมีมาตรฐานในการทำงาน เพื่อช่วยให้ผู้รับเหมาสามารถพัฒนากระบวนการทำงานและลดข้อผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นจากผู้ปฏิบัติงาน เนื่องจากงานบ้านเป็นงานฝีมือและจำเป็นต้องใช้ทักษะ รวมทั้งการบริหารจัดการในการทำให้งานก่อสร้างบ้านมีคุณภาพให้เป็นไปตามความต้องการของเจ้าของโครงการ นอกจากนี้มาตรฐานดังกล่าวยังช่วยให้เจ้าของโครงการมีความเชื่อมั่นในการทำงานของผู้รับเหมารับสร้างบ้าน